

การทำงานของผมอยู่กับธรรมชาติ การได้สัมผัสรับรู้เรื่ิองราวในที่ต่างๆ มันทำให้มุมมองในชีวิตของเราเปลี่ยนไป เหนื่อยไหมเวลาที่ต้องลุยป่าฝ่าเขา บอกได้เลยว่าเหนื่อยแต่ทุกหยาดเหงื่อที่ออกมาคือความสุข มิตรภาพที่มีให้กันตลอดการเดินทาง นี่คือเส้นทางแห่งชีวิต.. กล้าที่จะทำในสิ่งที่เราพอใจ กล้าที่จะท้าทายกับสิ่งใหม่ กล้าที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง สิ่งที่พบเจอระหว่างการเดินทาง มีค่ามากนัก ความทรงจำเหล่านี้จะอยู่กับคุณตลอดไป สำหรับผมนี่ไม่ใช่การแข่งขัน แค่ทุกคนเข้ามาทำตามฝันของตัวเอง มาร่วมผจญภัยไปด้วยกันครับ


ผจญภัยกลางป่าใหญ่ภูเขียว 3
...ยามเช้ากลางทุ่งหญ้า ท่ามกลางไอหมอก และฝูงกวางน้อย ที่ กระโจนแข่งโลดแล่นอย่างมีความสุข เสียงสัตว์ป่าแข่งกันร้องประชันกันดั่งเสียงดนตรีของโอเปร่าวงใหญ่ เสียงแห่งธรรมชาติ ช่างไพเราะยิ่งนัก ชืวิตเริ่มต้นของวันใหม่ หมุนเวียนเปลี่ยนไป ไม่หยุดนิ่ง จะมีสักกี่ครั้งในชีวิตที่ได้ห่างจากความวุ่นวาย มาทำอะไรที่ใจปราถนา ขอสูดรับพลังบริสุทธิ์ให้เต็มที่ ทำกาย ใจ ให้สมดุลกับธรรมชาติ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางอันยาวไกล มุ่งสู่ต้นกำเนิดแห่งลำน้ำชี กลางป่าภูเขียว...ความท้าทาย คือจิตวิญญาณของนักผจญภัยอย่างเรา...
"ขอพียงแค่เริ่มก้าว เราก็จะพบความหมายแห่งชีวิต" ขอเพียงใจพร้อม กายพร้อม เรื่องอื่นๆแค่องค์ประกอบ เมื่อคุณเริ่มย่างเท้าเข้าสู่แนวป่า ทุกย่างก้าวคือประสบการณ์ อันตรายไหมในการเดินสู่ป่าดงดิบ ตอบได้เลยว่าอันตรายทุกย่างก้าว แต่การที่เราได้ทำอะไรที่มันท้าทาย เดินตากแดดร้อนๆ เดินท่ามกลางสายฝนที่พรำลงมาตลอดทาง ระหว่างทางพบเห็นรอยเท้าของช้าง กระทิง หมูป่ารวมทั้งสัตว์ป่าอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเจ้า"ทาก"ผีดิบดูดเลือดแห่งป่าดงดิบ ที่จะติดตามเราไปตลอดการเดินทาง และฝากรอยแผลแห่งความทรงจำไว้ให้เรานึกถึงทุกเวลา..
ตะวันใกล้ลาลับในที่สุดเราก็ได้ยินเสียงน้ำสาดกระทบแผ่นหิน ดังอยู่ข้างหน้าจุดหมายแรกของเรา"น้ำตกบัวขาว"เสียงน้ำที่กระทบก้อนหินดุจดั่งท่วงทำนองเพลง สอดรับกับเสียงนกร้อง ความเหนื่อยทั้งวันมลายหายสิ้น เรื่องราวระหว่างทางต่างนำมาเล่าสู่กันฟัง ท่ามกลางแสงไฟจากกองฟืน อาหารที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยรสชาติของความสนุก ความทรงจำระหว่างวันมันช่างน่าลิ้มลองนัก เต๊นท์พักที่เรียบง่ายแต่หลับสบายตลอดคืน ท่ามกลางเสียงขับกล่อมจากธรรมชาติ "เส้นทางสู่เป้าหมายคือความทรงจำมากมายระหว่างทาง"
เช้านี้ริมน้ำตกอากาศเย็นสบายๆ ช่วงเวลาแบบนี้มีไม่บ่อยนักในชีวิตเรา ไม่มีเสียงโทรศัพท์ เสียงรถยนต์ เสียงทีวี มีแต่เสียงจากธรรมชาติ ที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไร ลองโดดเล่นน้ำเย็นๆ นอนให้น้ำไหลผ่านร่างกาย นี่แหล่ะสปาธรรมชาติ หายเมื่อย หายเหนื่อย ร่างกายพร้อมที่จะมุ่งหน้าเดินทางกันต่อไ ป อาหารเช้าง่ายๆไสตล์คนเดินป่า เก็บของจัดเป้เตรียมออกลุยกันต่อเป้าหมายข้างหน้า “ถ้ำนกนางแอ่น” ..ทุกการเดินทาง ย่อมมีท่วงทำนองที่แตกต่างกัน เก็บสิ่งดีๆระหว่างวันเพื่อเติมฝันให้จิตใจ...
การเดินทางวันนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเมื่อวานฝนตก หลังจากลุยน้ำ แล้วตัดเข้าป่าดงดิบ “ทาก”เพื่อนตัวน้อยๆเกาะติดมาตลอดทาง วันนี้มากันเยอะหน่อย มาคอยต้อนรับผู้มาเยือน จากความกลัวเปลี่ยนเป็นความคุ้นเคย ดินโคลนที่ติดรองเท้าทำให้วันนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกมาก รอยเท้ากระทิงใหม่ๆที่เพิ่งเดินผ่านไปไม่นาน ต้องเพิ่มความระมัดระวังเต็มที่ ทุกคนต้องตื่นตัวตลอดเวลา ได้แต่ภาวนาอย่าให้เจอกัน..หลังจากอิ่มท้องด้วยสุดยอดเมนูอาหาร ขอนไม้ข้างๆคือที่เติมพลังอย่างดี..อุปสรรคมีทุกเส้นทาง อยู่ที่เราจะจับวางไว้ตรงไหน.
เป้าหมายข้างหน้ายังอีกไกลต้องรีบเร่งเดินแข่งกับเวลา เส้นทางที่ผ่านเนินเขา และโขดหินที่ดูสวยงามแปลกตา ธรรมชาติช่างปั้นแต่งนัก แท่งหินวางเรียงรายคล้ายกับค่ายกลหนังจีนกำลังภายใน เส้นทางที่ลื่น เป็นเขาสูงชัน การไต่ลงไปสู่ปากถ้ำต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เชือกที่พกมาก็ได้นำมาใช้ประโยชน์เต็มที่..เมื่อรักที่จะผจญภัย การเสี่ยงภัยก็เป็นอะไรที่ท้าทาย พอคุณผ่านไปได้ ความภาคภูมิใจจะตามมา...และก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเราลงมาถึงหน้าถ้ำ ความกว้างใหญ่และงดงามของถ้ำ ทำให้พวกเราหายเหนื่อย มันช่างคุ้มค่านัก ...
ภายในถ้ำกว้างใหญ่มาก แสงระยิบระยับของผนังถ้ำยามเมื่อต้องแสงไฟ ดูช่างงามนัก เหล่าหินงอก หินย้อย พากันยื่นออกมาโชว์ความงาม ถ้ำแห่งนี้ลึกมากยังไม่เคยมีใครเข้ามาสำรวจว่าจะลึกขนาดไหน ภายในภ้ำมีหลายช่องทาง สายลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาตลอด เมื่อออกมานอกถ้ำได้ยินเสียงน้ำไหลดั่งน้ำตก ลองลงไปสำรวจดู เป็นธารน้ำใสสวยงามที่ไหลเข้าไปในถ้ำ ซึ่งไม่รู้จะไปสิ้นสุดที่ใด ธารน้ำที่ไหลหายไปในถ้ำดูช่างลึกลับน่าค้นหายิ่งนัก “งามตระหง่านกลางป่า เพียงได้มายลให้หลงใหล ดุจดั่งปราสาทกลางไพร จดจำไว้ในใจตลอดกาล"
ความกว้างใหญ่ของถ้ำทำให้เมื่อคืนเรากางเต็นท์ ผูกเปลนอนกันที่หน้าถ้ำกันอย่างสบาย บรรยากาศดีๆ หยิบสมุดมาบันทึกเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดการเดินทาง เวลาแห่งความสุขช่างผ่านเร็วจริง บางคนเขาบอกพวกเราบ้า ชอบมาทำตัวให้ลำบาก มานอนกลางป่า เสี่ยงอันตรายจากสัตว์และแมลงต่างๆ..แต่ความท้าทายมันทำให้ชีวิตมีรสชาติ การเดินออกจากโลกเดิมๆที่ทำประจำ มันทำให้ชีวิตมีคุณค่า ขอแค่คุณกล้าที่จะเดินออกมา แล้วคุณจะรู้ว่าเมื่อคุณกลับไป พลังกาย พลังใจของคุณ มันเพิ่มขึ้น ..”สิ่งที่พบไม่ใช่แค่ทางผ่าน แต่คือประสบการณ์อันล้ำค่า"
หลังจากดูแผนที่การเดินทาง เพื่อกลับสู่ทุ่งกะมัง เส้นทางวันนี้ต้องเดินขึ้นเขา ตามร่องน้ำซึ่งเต็มไปด้วยดินโคลน ทำให้แต่ละคนล้มลุกคลุกคลานกันมาตลอดทาง ความหนาแน่นของต้นไม้ ทำให้ไม่ได้เห็นแสงแดดกันมากนัก สายฝนที่ตกพรำเป็นช่วงๆ ยิ่งเพิ่มความยากในการเดิน..แต่ละก้าวต้องมั่นใจว่าจะไม่ล้มลงมา ต้องมั่นใจในทุกก้าวของตัวเอง..นี่แหล่ะรสชาติของชีวิต ที่มีทั้งช่วงที่ง่ายๆสบายๆ บางช่วงของชีวิตก็ช่างลำบากเสียจริงๆ แต่ทุกอย่างจะผ่านไปได้ ถ้าใจเรากล้าพอ...”กล้าที่จะเดินไปข้างหน้า ด้วยศรัทธาที่มั่นคง"...
...นี่คือการเดินทางตลอดสามวันสองคืน กลางผืนป่าภูเขียว แหล่งกำเนิดต้นน้ำชี ที่หล่อเลี้ยงภาคอิสาน.. นี่คือความทรงจำที่มิอาจลืมเลือน ..“จุดหมายคือปลายทาง เราก้าวย่างอย่างมั่นใจ กล้าออกผจญภัย ด้วยดวงใจที่มั่นคง ระหว่างทางที่ประสบ อาจได้พบต้องประสงค์ หลายสิ่งทำงวยงง เราแค่จงมาเข้าใจ ให้เรียนรู้สิ่งต่างต่าง ระหว่างทางจดจำไว้ สร้างเป็นพลังใจ จดจำไว้เป็นบทเรียน ก้าวเดินไปข้างหน้า ถึงอ่อนล้าต้องพากเพียร จุดหมายดุจแสงเทียน บทเรียนเขียนตามเส้นทาง”....